วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

The Shadow Chap 23 :: ความจริง -WonHyuk-




The Shadow 
Chapter 23
NC WonHyuk


ร่างสูงอึกอักไปกับจุมพิตหวามไหวที่ประดังเข้าหาตัว ความโหยหาอันยาวนานถูกจุดขึ้นทำให้สติพร่าเลือน แทบไม่รับรู้ความจริง เขาถูกฮยอกแจหว่านล้อมด้วยจูบที่ตัวเองเคยสอน ถูกทำให้งงงันยามนิ้วมือร้อนผ่าวผลักเขาเข้ามาในบ้าน ผ่านห้องรับแขกด้วยจุมพิตร้อนที่แทบจะทิ้งเปลวไฟลามเลียพื้น และยิ่งกว่าเมื่อมาถึงหน้าประตูห้องนอน นิ้วร้อนสอดมือเข้าไปปลดเสื้อคลุมออกเป็นอย่างแรกจนเขาไม่ทันตั้งตัว
“อือ...อืม...” ชายหนุ่มเผลอไผลตอบสนองความร้อนที่อีกฝ่ายส่งมา ความคิดถึงที่เอ่อล้นผลักดันให้เขากระชับเอวเล็กเอาไว้ตามสัญชาตญาณ การกระทำทุกอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างที่เคย แม้จะห่างมากว่าสามปีแต่ฮยอกแจก็ยังจำได้ดีว่าชีวอนชอบทำอะไรแบบไหนบ้าง และเมื่ออีกฝ่ายเริ่มคล้อยตามเขา เจ้าตัวก็ยิ่งพอใจ
ไม่เคยมีอะไรที่เขาจำไม่ได้ โดยเฉพาะบทรัก ร่างเล็กไม่สนว่าตอนนี้ตัวเขาจะป่วยหรืออยู่ในสภาพไหน นอกจากตั้งใจเล้าโลมให้ชีวอนหลงกลและทำตามคำสั่งของหัวใจแล้ว เขาก็ไม่คิดถึงอะไรอีก
สองร่างขยับเข้าหากันราวแม่เหล็กต่างขั้ว สิ่งเดียวที่ทำให้ผละออกจากกันได้คือเมื่อปลดเสื้อผ้าบางชิ้นออกจากร่างกาย ฮยอกแจกอดรัดตัวหนา ถ่ายเทความอุ่นร้อนของผิวเนื้อให้ชีวอนจนชายหนุ่มครางแผ่วในลำคอ หมดสิ้นซึ่งความอดทนที่ตั้งใจ
มือใหญ่เชยคางเรียวขึ้นมาก่อนจะกดจูบลงไปอย่างโหยหา ถ่ายเทความรู้สึกคิดถึงในยามห่างกันจนฮยอกแจแทบสำลัก หลังบางเอนลงไปโดยมีคนตัวโตประคองเอาไว้ ท่อนบนที่กำลังจะเปล่าเปลือยเสียดสีให้ความร้อนเพิ่มมากขึ้น ร่างเล็กหอบหายใจทว่าไม่ต้องการหยุดสิ่งใด เขาเดินหน้า เบียดร่างกายเข้าหาชีวอนอย่างไม่เขินอาย เพื่อให้อีกฝ่ายเติมเต็มความอ้างว้างที่ทับถมในใจ
“อือ...อ๊า...” เสียงหวานร้องคางเมื่อมือใหญ่รุกเร้าเข้าด้านในเสื้อ ชีวอนเดินหน้าเต็มที่อย่างไม่สนใจเงื่อนไขอะไรอีก ตอนนี้เขาเพียงต้องการคนตรงหน้า ความรู้สึกที่เก็บกดมานานดึงเขาให้เข้าหาฮยอกแจจนอีกฝ่ายร้องครวญเสียงขาดห้วง
“ฮึก...คิดถึง...ฉันคิดถึงนาย”  เสียงหวานหอบครางระรัว พอปากได้รูประเรื่อยลงไปถึงเรียวคางและคอขาว ฝังรอยจุมพิตร้อนแรงเอาไว้ตามอารมณ์ฮยอกแจก็แทบจะหลอมละลาย เขากอดชีวอนเอาไว้ พยุงตัวเองติดกับตัวหนาทั้งที่อีกฝ่ายกำลังหาความหวานจากร่างกายเขา
ชายหนุ่มไม่พูดอะไรนอกจากเดินหน้าสร้างความสุขสม ฮยอกแจถอยหลังกระทั่งขาเรียวถึงขอบเตียงนอน สองร่างก็ร่วงหล่นบนฟูกนุ่ม ร่างเล็กผอมลงไปจนแทบจมกับที่นอน แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความต้องการของเขาทุกอย่าง ชีวอนประสานสองมือลงไป ฮยอกแจก็กระชับมือกลับมาและแอ่นอกขึ้นตามลิ้นสากที่กำลังรุกรานเขา
ไม่มีใครพูดอะไรนาอกจากส่งเสียงครวญตามอารมณ์ร้อนที่ปะทุ ชีวอนรุกไล่เป็นจังหวะรวดเร็วฮยอกแจก็แทบจะไหม้เป็นจุลไปกับไฟที่สุมในร่าง ดูเหมือนอาการป่วยจะไม่ใช่เรื่องสำคัญในตอนนี้ ร่างเล็กร้องขอให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ แนบเนื้อตัวเองเพื่อจะสัมผัสถึงความรักที่ห่างไปนาน
ชีวอนเองก็เหมือนจะเข้าใจ ชายหนุ่มแทบจะไม่ผละห่าง เขาโอบกอดเอาไว้ สร้างความสุขอันร้อนแรงไปพร้อมกับการกระทำอันช่ำชองที่คุ้นเคยในความทรงจำ
            กางเกงนอนขายาวถูกรูดออกไปจากเรียวขาขาว ฮยอกแจสะท้านวูบ เกาะไหล่กว้างเอาไว้เมื่ออีกฝ่ายซุกมือเข้าหาชั้นในตัวบางอย่างไม่รีรอ กอบกุมส่วนแข็งขืนปริ่มน้ำหวานให้เจ้าตัวครางสะเทิ้น หอบหนักหน่วงกับมือที่ไม่ยอมผละถอย
            “อ๊ะ...อ...อา...ชีวอน...” ใบหน้าหวานแดงก่ำจนน่ากลัวจะระเบิด ฮยอกแจลูบมือไปตามลาดหลัง ยิ้มอย่างพอใจกับตัวเองเมื่อสัมผัสได้ถึงรอยขรุขระที่เขาจำได้ แผ่นหลังชีวอนมีรอยแผล ต้นแขนก็มี เขาเห็นมันทุกอย่างแล้ว มั่นใจแล้วจริงๆ ว่าคนตรงหน้าคือคนที่รอมาแสนนาน
            นิ้วยาวเกาะกุมและรูดรั้งจนร่างเล็กแอ่นกายเอวลอย ความสุขสมคว้างอยู่ในทุกอณูร่างกาย เสียงหวานอื้ออ๊าไม่ขาดจังหวะ เนื้อนวลถูกบีบย้ำรัวแรงก่อนจะถูกกระชากประการสุดท้ายไปจากร่างน้อย ตอนนี้ทั้งตัวฮยอกแจขาวผ่องให้คนมองกลืนน้ำลายอย่างพอใจ ร่างนี้เป็นของเขาแต่ต้น ชีวอนก้มหน้าลงไปหายอดอกที่กำลังเบ่งบานรอเขา ขยี้ด้วยลมหายใจร้อนผ่าวแล้วตวัดลิ้นชิมความหวานพร้อมๆ กับมือที่ละเลงอย่างไม่ปราณีจนคนด้านใต้ดิ้นพล่าน เขาเหมือนปลาที่กำลังจะขาดอากาศตาย ฮยอกแจร้องโหย ครวญครางด้วยความพึงพอใจ กระแสคลื่นสวาทถาโถมในร่างเขา ฮยอกแจก็ทำได้เพียงเกาะไหล่กว้างและร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างจำนน
 ฮยอกแจตัวร้อนไปหมด ไม่รู้ว่าเพราะพิษไข้หรือพิษรักกำลังเล่นงานเขาอยู่ เขาตอบสนองให้ชีวอนอย่างเท่าเทียม นิ้วมือเล็กเลื่อนลงไปหากางเกงขายาว ปลดมันออกด้วยมือตัวเองและชายหนุ่มก็สะบัดมันทิ้งอย่างไม่ไยดี สองกายเปลือยเปล่าเท่าเทียม ขยับร่างเข้าหากันราวจะหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวจนฮยอกแจตัวแดงไปหมด
ครั้งแรกหลังจากห่างหายไปสามปีทำให้ทั้งคู่ร้อนจนพรั่งพร้อมจนแทบจะรอไม่ไหว ทว่าทุกอย่างกะทันหันเกินไป ชีวอนยังคงคิดถึงและเป็นห่วงฮยอกแจก่อน เขาเร่งมือรูดกายเล็ก ให้ฮยอกแจปลดปล่อยก่อน คนตัวเล็กแทบจะร้องไม่เป็นภาษา เมื่อถูกคนคุ้นเคยทำร้ายด้วยอารมณ์ร้อนแรงก็ส่งเสียงลั่นห้อง สะอื้นในลำคอกับจังหวะรัวถี่จนต้องปล่อยสายธารสีขาวออกมาเต็มมือใหญ่
            ชายหนุ่มปาดเอาของเหลวเหล่านั้นมาเป็นตัวช่วย ทันทีที่นิ้วยาวชำแรกผ่านประตูสวรรค์เข้าไป ร่างเล็กก็กัดไหล่เขา ตาเรียวหลับปี๋ไปกับความเจ็บเสียด เนื้อนุ่มบีบรัดรุนแรงกับสิ่งแปลกปลอม ทว่าเจ้าของมันแยกเรียวขาเพื่อรับเอาทั้งหมดที่ชีวอนจะมอบให้ ชีวอนขยับถอย ฮยอกแจรัดเอวหนาไว้แน่น เขาไม่อยากให้ชีวอนไปไหน ต่อให้ต้องเจ็บปวดก็ยินดียอมรับมัน
            “อย่า...ไป...นะ...”
            “เจ็บมั้ย?...” เขาถามอย่างอดไม่ได้ เห็นร่างเล็กกัดฟันส่ายหน้า โพรงอุ่นร้อนขยับเข้าหานิ้วมือเขาเพื่อเรียกร้อง ชีวอนก็ครางในลำคอกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
            นิ้วยาวสร้างความคุ้นชินและเปิดทางที่ไม่ได้เจอกันกว่าสามปี ดันเข้าลึกและถอนออกมา รู้สึกถึงแรงบีบรัดอันโหยหา ชายหนุ่มก็แทบทนไม่ไหว ตอนนี้ทั้งสองกายเปลือยเปล่า ไม่มีส่วนใดที่ปกปิด ฮยอกแจเห็นคนตรงหน้าได้ชัดเจน ไม่ใช่ภาพลวงตาหรือความฝัน แต่ชเว ชีวอน ผู้ชายที่เขารักมากที่สุดอยู่ตรงหน้าแล้วจริงๆ
            “เข้ามาเถอะ...” เสียงหวานร้องขอ โอบกอดชีวอนเอาไว้ยามที่อีกฝ่ายจดจ่อความใหญ่โจที่ปากทางความรัก ยามชีวอนขยับแทรกกายเข้ามา ความเจ็บแล่นปราดจากการเสียดสีทว่าเจ้าตัวกัดฟันสู้ แม้จะรู้สึกเหนื่อยแต่ฮยอกแจก็ไม่ถอย เขาขยับเข้าหาชีวอนก็ดันเข้ามามากขึ้น สร้างอารมณ์ให้กระทั่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ฮยอกแจโอบล้อมตัวตนของชีวอนเอาไว้อย่างสมบูรณ์
            ร่างสูงโน้มลงมาจุมพิตขณะที่เริ่มขยับสะโพกเหมือนในอดีต ชายหนุ่มยังคงรังแกเขาได้อย่างทรมานและซาบซ่านเหมือนเก่า และคล้ายจะมากกว่ากับเวลาอันยาวนานที่ห่างหาย สะโพกหนาดันเข้าลึกสุด กระแทกจุดนั้นซ้ำๆ ให้ฮยอกแจดิ้นรน ร้องครางแหบโหยอย่างเสียวซ่าน ขาเรียวอ่อนระทวยให้ชายหนุ่มช้อนเข่าขึ้นรับจังหวะหนักหน่วงและกระแทกกระทั้นตามใจ ฮยอกแจต้องรับศึกทั้งจากด้านบนและล่างไปพร้อมกัน แต่เขาไม่หวั่นเกรง ส่งเสียงร้องขอการเติมเต็มที่ทำให้รู้สึกถึงความชิดใกล้ เอวหนากำลังขยับเข้าลึกและถอดถอนเร่งเร้าเพื่อความสุขที่ปลายขอบฟ้า
            ความเจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องของความอ่อนไหว ร่างน้อยหอบครวญ ส่ายหน้าไปมาอย่างไร้หนทาง ชีวอนกำลังทำให้เขาใจขาด ลมหายใจอันน้อยนิดถูกริดด้วยริมฝีปากหนา ส่งลิ้นเข้ารุกรานเป็นจังหวะเดียวกับสะโพกที่กำลังโหมแรงเข้าหา ฮยอกแจน้ำตาไหล รู้สึกอิ่มเอมกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจนไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่กำลังรักเขาในตอนนี้คือชีวอนจริงๆ
            “อืม...ฮา...” ชายหนุ่มครางเครือ เบียดอกกว้างเข้าชิด สองปากรุกเร้ากันไม่แพ้ด้านล่างที่กำลังผลุบเข้าออก ฮยอกแจหายใจแทบไม่ทัน เหมือนร่างกายกำลังจะระเบิดและแตกเป็นเสี่ยง แต่หากต้องตายในนาทีนี้ เขาก็จะไม่เสียดายชีวิตสักนิด
            “ฮือ...อ๊ะ...อ๊า.....อา...ชีวอน...” เจ้าตัวร้องคราง หมดเรี่ยวแรงจนหอบโยน มือใหญ่จับให้ขาเรียวพาดบ่ากว้าง สะโพกอิ่มลอยหวือเข้าปะทะกับหน้าขาแข็งแกร่งที่รอรับ โพรงรักร้อนดูดกลืนชายหนุ่มมากขึ้น ทำให้ฮยอกแจรู้สึกถึงความลึกล้ำในร่าง ทั้งอึดอัดและแนบแน่น แต่ก็เต็มไปด้วยความรักเอ่อท้น ชีวอนขยับรุกล้ำ จุดปลายของแท่งยาวตอกย้ำให้ฮยอกแจสะดุ้งวาบกับจุดกระสันที่ถูกบดย้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
ฮยอกแจตาลาย ความสุขสมแต่ละครั้งโยนเขาขึ้นจุดสูงสุดและเหวี่ยงร่างลงมารับความเสียวซ่านที่รอคอยอย่างถึงใจ เขาหอบจนตัวโยนรู้สึกเหมือนจะตายให้ได้ ร้องไม่เป็นคำ จิกนิ้วกับแขนยาวที่โอบรัดแล้วก็ผละไปจิกหมือน ร้องร่ำราวจะขาดใจทุกครั้งที่ชีวอนโหมแรงเข้ามาในร่าง เติมความอบอุ่นให้กับคืนวันที่โหดร้ายตลอดสามปี
            ร่างเล็กร้องไห้ออกมาเมื่อรู้สึกถึงความรักอันท่วมท้น แม้จะห่างไปนานแต่จังหวะที่ยังเข้ากันได้ดียิ่งทำให้เกมรักครั้งนี้ดุเดือด ชายหนุ่มดุดันเข้าหา พึมพำในลำคอไม่ได้ศัพท์ทว่าก็ยังก้มลงมาจูบเรียวปากอิ่มบวมที่ถูกขบย้ำจากจุมพิตนับครั้งไม่ถ้วนในคืนนี้ ฮยอกแจกอดรัดเอวหนา รู้สึกถึงระลอกคลื่นที่ถาโถมเข้าหาตัวราวกับคลื่นทะเลอันร้อนแรง มือใหญ่ยังคงรุกรานส่วนอ่อนไหว กระตุ้นให้มีความสุขไปพร้อมๆ กันจนร่างเล็กหอบหนัก
            ชีวอนตาพร่า มองร่างข้างใต้ที่กำลังตอบสนองเขา ฮยอกแจสวยทุกเมื่อไม่ว่าจะในยามไหน แม้จะมีน้ำตาบนใบหน้าในตอนนี้ก็ตาม ชายหนุ่มโน้มตัวลงไปจูบซับ ขยับสะโพกไม่หยุดหย่อนก่อนจะเร่งมือมากขึ้นจุดปลายฝันใกล้เข้ามา ฮยอกแจร้องคราง รับรู้ถึงแรงกระหน่ำก็กอดรัดร่างสูงเอาไว้ ชีวอนโหมกายหนักหน่วง เสียงสอดประสานถี่รัวทำให้เขาหน้ามืดขยับสะโพกกระทั่งปลดปล่อยน้ำหวานจากในร่างเข้าสู่ตัวฮยอกแจจนล้นปรี่ กายหนากระตุกติดกันให้คนรับสะท้านสะเทือนไปด้วย
            เวลายาวนานที่ไม่ได้รักกันทำให้น้ำขุ่นขาวมากมายจนบางส่วนหยดซึม ฮยอกแจหอบ อกบางสะท้อนขึ้นลงถี่ๆ กายเล็กยังไม่ได้ปลดปล่อยทว่าชีวอนก็เลื่อนมือมาพลางสบตา เห็นแววตาร้อนแรงนั้นแล้วฮยอกแจก็ยิ่งแน่ใจ เพราะอีกฝ่ายไม่เคยปล่อยให้เขาค้างคาแบบนี้ มือใหญ่รุกเร้าและกระทำต่อให้กระทั่งร่างเล็กถึงห้วงสวรรค์ครั้งที่สอง เสียงหอบหายใจดังกลบเสียงอื่นในความมืด แขนเรียวกอดชีวอนแน่นหนาราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไปกะทันหัน






กลับไปอ่านต่อที่หน้าฟิคหลักนะคะ 

วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

The Shadow Chapter 18 -เพียงเท่านี้- NC KyuMin



The Shadow 

Chapter 18

-เพียงเท่านี้-

-NC KyuMin-



ร่างเล็กทอดกายบนที่นอนเมื่อคนตัวโตกว่าพลิกขึ้นมาทาบทับ ซองมินปิดตา ซ่อนความรู้สึกเอาไว้เมื่อมือใหญ่กำลังไต่เข้าด้านในตัวเสื้อ ผิวเนื้ออุ่นสะท้านวาบจากความเย็นของมือ และเมื่อคยูฮยอนเริ่มเล้าโลมและชักจูงให้เขาเดินเข้าสู่วังวนอันน่าลุ่มหลง ซองมินก็ไม่ได้คัดค้านอะไรเลย
“พ...พี่คยู” ปากอิ่มขบเม้มด้วยความเสียวซ่าน คยูฮยอนรื้อเสื้อออกจากร่างเขาแล้วก็คลุกเคล้าลงมาอย่างไม่ยอมเสียเวลา การกระทำน่าอายทำให้ซองมินแทบขดตัว เขาจับจ้องที่ร่างหนา มองทุกการกระทำและซึมซับเอาทุกความรู้สึกจนแทบละลายเป็นขี้ผึ้งเมื่อเจอความร้อนรุ่มจากคยูฮยอน
ชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยตอบอะไร เขาหยัดกายขึ้นทาบทับและกดจูบหนักหน่วงราวกับโหยหามาแสนนานจนร่างเล็กแทบสำลักความสุข ซองมินร้องฮือ สองมือป่ายปัดบนที่นอนราวกับคนหาทางออกไม่เจอเพราะโดนดูดดึงลมหายใจยาวนาน พอผละออกมาหอบแฮ่ก ร่างสูงก็ไล่ริมฝีปากลงต่ำ จูบซับตามผิวเนื้อขาวนวลอย่างย่ามใจไปทั่วร่าง สติอันน้อยนิดที่กำลังพร่ามัวในสมองทำให้เขาลืมเลือนทุกสิ่ง พึมพำไม่ได้ศัพท์และเรียกร้องจากกายเล็กที่สั่นเทาเพราะความไม่เคย
“ฮ...ฮึก...” ซองมินอุทานเสียงสะอื้น รสชาติความสุขที่กำลังประดังเข้าหาตัวทำให้เขากลายเป็นคนหน้าไม่อายไปแล้ว ทั้งร่างเกือบจะเปล่าเปลือยเพราะฝีมือของคยูฮยอน แต่ทั้งที่รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น และแม้จะมีความหวาดกลัวมากเพียงใด ร่างเล็กก็ไม่ยอมถอยหลัง
มือเรียวสั่นยกขึ้นอย่างกล้ากลัวเพื่อโอบกอดคยูฮยอน ชายหนุ่มที่กำลังอยู่ในความสับสนเดินหน้าอย่างเร่งร้อนและตะกรุมตะกราม ทว่าในความคิดของซองมินแล้ว การกระทำเหล่านั้นคล้ายเป็นการปลอบประโลม เขายินดีทำทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเสียครั้งแรกของเขาให้กับคยูฮยอน ผู้ชายใจดีที่ช่วยเขาไว้ และเป็นคนที่ซองมินรู้สึก “รัก” แบบไม่อาจห้ามใจได้
“หอม...อืม...” ร่างสูงเอ่ยพลางตวัดลิ้นหยอกล้อกับยอดอกสีอ่อนที่กำลังต่อสู้กับปากเขา ซองมินครางฮือ เงยหน้าร้องอู้อี้เพราะโดนบุกรุกไปทั้งตัว เขาไม่เคยให้ใครเข้าถึงตัวขนาดนี้มาก่อน และเมื่อมาเจอฤทธิ์พิศวาสครั้งแรกกับคยูฮยอนก็แทบทำอะไรไม่ถูก
“พี่คยู...อื้อ...ผม...ผม” เสียงหวานร้องเร่า เจ้าของชื่อก็ยิ่งได้ใจละเลงนิ้วและปากหนักหน่วง คยูฮยอนแข็งกร้าวและดุดันไปด้วยอารมณ์ พิษรักร้อนที่กำลังดำเนินไปในตอนนี้จึงเข้มข้นและทำให้คนรับสั่นสะท้าน
“อ๊า...พี่คยู”
ซองมินไม่อาจเก็บเสียงร้องใดใดได้เลย ทุกครั้งที่มือหนาบดขยี้และเร่งนิ้วใส่ร่างเขา ทั้งตัวก็สั่นกึกราวกับจะไม่มีวันได้หยุดพัก สองมือใหญ่และใบหน้าหล่อเหลาก้มลงคลุกเคล้ากับเขา ซองมินพยายามตั้งใจที่จะไม่กลัว แต่บางครั้งคยูฮยอนก็เร่งและร้อนแรงเกินไปทำให้ร่างเล็กปากสั่น
“พี่คยู...ด...เดี๋ยวฮะ”
ชั่วขณะหนึ่งที่สติของชายหนุ่มคล้ายจะกลับมา มือซึ่งกำลังปราการสุดท้ายจากเรือนร่างขาวจึงชะงัก ใบหน้าหวานใสคลอคลองด้วยน้ำตาเงยขึ้นมองเขา คยูฮยอนมองเห็นความกลัวในแววตานั้น แต่แรงผลักดันจากก้นบึ้งของหัวใจผสมกับฤทธิ์ของเหล้ามากมายทำให้เขาลืมเลือนความเป็นสุภาพบุรุษและความเย็นชาแทบทุกสิ่ง
“ฉันต้องการนาย”
เพียงคำพูดเดียว... ซองมินก็น้ำตาไหล เขาไม่รู้ว่าควรจะหยุดตรงนี้หรือเดินหน้าต่อ รู้เพียงแต่ว่าร่างกายมันขยับไม่ได้ และเมื่อมือนั้นรูดเอาชั้นในสีขาวลงออกไปจากร่าง ซองมินก็ขดตัวแทบกลมแล้วก็โดนดึงขึ้นมาด้วยมือใหญ่เพื่อให้ตอบรับรสจุมพิตหนักหน่วงทันทีอย่างไม่ยอมเสียเวลา
“ผ...ผม...พี่คยู...อ๊า” หน้าหวานส่ายรัวไม่เป็นจังหวะ เขาไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกครอบครองด้วยมือและนิ้วที่เชี่ยวชาญ คยูฮยอนไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงในใจที่ร่ำร้องต้องการปลดปล่อย ความต้องการอัดแน่นสุมมานานวันถูกระบายลงกับร่างที่นอนอยู่ใต้ร่าง ร้องครวญครางไปตามน้ำหนักมือซึ่งทิ้งรอยเอาไว้แทบจะทุกครั้ง
ซองมินเก็บแรงสะอื้นไว้ข้างใน พยายามตอบสนองทุกอย่างที่คยูฮยอนกำลังชักนำ แต่ในบางครั้งเขาก็ไม่ทันตั้งรับ เสียงร้องผสมความเจ็บดังขึ้น ชายหนุ่มเงยหน้ามอง ดวงตาหรี่ปรือถูกบดบังด้วยความต้องการ แล้วจากนั้นร่างสูงก็จะกดจูบ คล้ายจูบปลอบทว่ามันกลับเพิ่มความเร่าร้อนและความต้องการให้ซองมินร้องครางได้มากขึ้น
ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อรู้สึกถึงมือที่กำลังรุกรานเข้าในตัว ซองมินถดถอยกะทันหันเพราะเขาไม่เคยคุ้น ความเจ็บแปลบที่แล่นเข้าหาตัวทำให้ร่างเล็กพลิกหนี ทว่าคยูฮยอนกลับตามติดทาบทับ
“พี่คยู...ซองมินเจ็บ...” เจ้าตัวร้องออกมาด้วยเสียงปนสะอื้น นิ้วยาวสองนิ้วที่รุกรานเข้าช่องทางสีหวานล้ำกำลังดึงเข้าออก ความฝืดเคืองและความเจ็บจากครั้งแรกผสมกันจนซองมินจิกไหล่กว้างเอาไว้แน่น
ชายหนุ่มเงยหน้ามองร่างเล็ก ความรู้สึกอ่อนโยนแทรกซึมทำให้เขาโน้มตัวไปจุมพิต มือข้างที่ว่างก็ช่วยรูดรั้งให้อีกฝ่ายได้มีอารมณ์ร่วมและเพลิดเพลินไปด้วยกัน แต่พอผ่อนคลายได้เล็กน้อย นิ้วที่สามก็ตามเข้ามาทำให้ตาโตขึ้นไปอีก
“จ..เจ็บ...ฮะ” เขาร้องอยู่ข้างหู แต่คนตัวโตมาไกลเกินจะถอนตัวกลับ คยูฮยอนหลับตา เร่งมือรูดรั้งจนร่างเล็กเอวลอย เขารู้สึกวืดไปทั้งตัว ทั้งที่ยังเจ็บจากนิ้วที่ยังไม่ถอดถอน แต่ซองมินก็รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังหฤหรรษ์ไปกับอะไรบางอย่างที่บอกไม่ได้
“อ๊า...พี่คยู...อ๊ะ...” ขาเรียวหยัดบนที่นอนแล้วความสุขสมก็พร่างพรายออกมาเป็นน้ำสีขาวขุ่นและหยดลงเบื้องล่าง คยูฮยอนมองใบหน้าแดงก่ำ ตัวขาวๆ ที่อ่อนระทวยแล้วก็กดยิ้ม ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัวด้วยความเร็วเพียงไม่กี่วินาที
“ถึงคราวของฉันแล้วนะ”
แทบจะไม่มีความอ่อนโยนใดใดเลย... ซองมินร้องอุทานอีกคำรบพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม ความอุ่นจากหยดสีขาวถูกแปรเปลี่ยนเป็นตัวหล่อลื่นชั้นดีที่คยูฮยอนใช้มัน ซองมินกัดปาก พยายามเก็บกลั้นความเจ็บและไม่ร้องอะไรออกไป บอกตัวเองว่าเขาต้องการแบบนี้เองแต่แรก เขาอยากจะช่วยให้คยูฮยอนลืมความทุกข์ใจ แม้จะต้องทนเจ็บแบบนี้ เขาก็ต้องไม่เป็นอะไร
“อ๊..อ๊ะ...อื้อ...” มือเล็กพยายามผ่อนแรงที่สะโพกหนาดันเข้าออกในร่างกายตน ความเจ็บเสียดทำให้ร้าวรานไปทั้งช่วงสะโพก ยิ่งคยูฮยอนโหมกระหน่ำเข้ามา ก็ยิ่งถูกบดขยี้ด้วยความรู้สึกเจ็บร้าวจนทนแทบไม่ไหว
“ฮา...อา...” ร่างสูงหลับตา เดินหน้าเก็บเกี่ยวความสุขจนแทบไม่ได้สนใจว่าคนด้านล่างกำลังใจจะขาด ซองมินอุดปากกลั้นเสียงร้องไห้ เขาพยายามไม่ร้องอุทานเพราะความเจ็บ แต่บางครั้งก็เสียวซ่านไปกับจังหวะชักนำ ร่างเล็กไม่อาจห้ามร่างกาย เขาตอบสนองตามความต้องการของคยูฮยอน แต่ทุกครั้งที่ทำแบบนั้นก็ต้องอุทานด้วยเจ็บปวดจนเกินบรรยาย กายใหญ่แทรกเข้ามาถี่กระชั้น ทำให้ช่องทางอ่อนนุ่มแทบฉีกขาด ร่างเล็กพยายามแยกขากว้างเพื่อรับอีกฝ่าย แต่ยิ่งทำก็ยิ่งเจ็บและแสบร้อนจนจะทนไม่ไหว
“พี่...คยู...ฮึก...”
เสียงหวานร้องในลำคอ บอกตัวเองว่าทนเอาไว้ ขอให้คยูฮยอนมีความสุขก่อนจะเจ็บแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ทว่าเมื่อจังหวะยิ่งพัดโหม ความเจ็บปวดยิ่งทบทวี ร่างเล็กไม่อาจกลั้นเสียงร้องและน้ำตา ปลดปล่อยมันออกมาพร้อมกับที่คยูฮยอนโยกกายเข้าหาเพื่อเดินไปให้ถึงจุดสูงสุดที่กำลังรออยู่เบื้องหน้า ปากได้รูปก้มลงมาบดจูบระรัว ลิ้นสากควานหาความหวานอย่างเชี่ยวชาญพอกับสะโพกที่กำลังพุ่งเข้าด้านในอย่างล้ำลึกและร้อนเร่า ซองมินร้องเสียงหอบ หลายความรู้สึกประดังเข้าหาตัวจนไม่อาจบอกได้ว่ารู้สึกดีหรือเจ็บปวดมากกว่ากัน เพียงแค่รับเอาน้ำหนักตัวคยูฮยอน รับเอาความเจ็บปวดที่โถมทับก็ทำให้หายใจแทบไม่ไหว
“เยี่ยม...อา...” ชายหนุ่มหลับตา ไม่ได้สนใจใครอีกต่อไป และเมื่อใกล้จะถึงเส้นชัยก็ขับควบความต้องการให้พุ่งสูง เร่งเร้าเอาจากคนด้านล่างที่หมดแรงจากความเจ็บปวดที่ไม่อ่อนโยน ซองมินครางเสียงเหือดแห้ง เขาไม่อาจทำอะไรได้เลยนอกจากเป็นที่รองรับความเจ็บปวดให้กับคยูฮยอน และแม้ว่าน้ำตาจะกลบม่านตา แม้ว่าเขาจะมองเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นไม่ชัดเจน ซองมินก็ยังกอดอีกฝ่ายเอาไว้ เขาอยากให้คยูฮยอนได้รับรู้ว่าอย่างน้อยเขาก็ยังยืนเคียงข้าง
“อื้อ...เจ..เจ็บฮะ...พี่คยู...โอ๊ย...”
มือเล็กสั่นเทา เขากอดคยูฮยอนเอาไว้และกัดบ่ากว้างเต็มแรงเพราะอีกฝ่ายกระแทกกระทั้นเข้าลึกสุด
“อ๊า...อื้อ...” ซองมินจิกนิ้วกับบ่ากว้างจนเกิดรอยแผล เขาถดสะโพกหนีความรุนแรงที่หนักหน่วงเกินทนไหว แต่คยูฮยอนก็ตามติดและโหมสะโพกถี่รัวในเสี้ยวสุดท้ายของอารมณ์ เพียงไม่กี่ครั้งในช่วงสูงสุดร่างสูงก็โยกรัวเร็วเต็มแรงและปลดปล่อยด้านในจนคนรับครางกระตุก ซองมินน้ำตาริน เขาพูดอะไรไม่ออกนอกจากถอนหายใจครางเครือเมื่อร่างสูงตัวอ่อนซบลงมาบนร่าง ส่วนใหญ่โตยังไม่หลุดจากช่องทางสีหวานและซองมินก็ทำอะไรไม่ถูกนอกจากนอนกอดคนตัวโตที่กำลังหอบไว้แบบนี้
 









กลับไปอ่านต่อที่หน้าหลักนะคะ ^^



วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

The Shadow Chapter 16 :: ในวันนี้



The Shadow Chapter 16

 ในวันนี้

-NC WonHyuk-








........................................





เสียงกระซิบหวานกระเส่าดังอยู่ในความมืดที่โอบล้อม สองกายกอดเกี่ยวแนบชิดกระทั่งไม่เหลือพื้นที่ว่างให้อากาศเย็นลอดผ่าน เสียงหอบครางตามติดด้วยลมหายใจเร่าร้อน ฮยอกแจโอบแขนรอบคอหนาเมื่อชีวอนก้มลงซุกไซร้ข้างอก ตวัดลิ้นหยอกล้อกับยอดอกสีนวลให้เจ้าตัวสะอื้น
            “อื้อ...” นิ้วเรียวจิกลงบนหลังกว้างสลับกับการปลดปล่อยเสียงร้องของความรัญจวน แทบจะไม่ได้หยุดพักหายใจ ชีวอนก็รุกรานใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า สองมือไม่ปล่อยให้ร่างกายเขาว่างเว้น ชายหนุ่มใช้ความเชี่ยวชาญปลุกเร้าจนฮยอกแจครางไม่ได้ศัพท์ร้องขอเสียงหวานให้ชีวอนเข้าแนบชิด
            “ชีวอน...อือ...”
            ตาเรียวปริ่มไปด้วยรอยพิศวาสโลมเลีย ทั่วร่างร้อนราวกับมีประจุความร้อนฝังเอาไว้ ชีวอนผละออกมาเพื่อปลดปล่อยตัวเองให้พ้นจากพันธนาการ และเมื่อขยับขึ้นทาบทับร่างบนเตียงอีกครั้ง ฮยอกแจก็ออดอ้อนเสียงหวาน
            “ฉันจะทนไม่ไหวแล้ว”
            “ชู่ว... อย่าเพิ่งรีบร้อน ผมอยากรักคุณให้นานๆ อยากรักจนฮยอกแจต้องซบอกผม”  
            “ไม่เอาตอนนี้นะ... ชีวอน...ฮื้อออ” เสียงร้องขัดใจดังออกมา แล้วชีวอนก็จูบกั้นเสียงตัดพ้ออื่นใด เขาหยอกล้อ ชักนำให้ร่างเล็กหลงไปกับกองไฟพิศวาสที่ช่วยกันสร้างขึ้น กระทั่งนิ้วมือยาวรุกรานเข้าเชื่องช้า สองมือทำหน้าที่ประสานกับทั้งหน้าและหลังจนฮยอกแจเบิกตาโต
            ขาเรียวแยกกว้างราวกับยอมจำนนในความต้องการของตน เสียงหวีดร้องดังก้องขึ้นมาในบางคราวที่ชายหนุ่มกดย้ำในจุดอ่อนไหว นิ้วยาวสาวขึ้นลงให้ฮยอกแจร้องครวญ ใบหน้าหวานส่ายปัดป่าย ทั้งหอบทั้งแอ่นสะโพกลอยคว้างเมื่อนิ้วยาวชำแรกเข้าลึก สอดเข้าออกเป็นจังหวะถี่รัวจนเอวเล็กกระตุกตาม
            “ช...ชีวอน...ม.มาเถอะ” ใบหน้าหวานลืมตาฉ่ำน้ำมองเขา ชายหนุ่มจึงเร่งมือรูดรั้งจนฮยอกแจต้องลงไปนอนซบหมอนอีกครั้งและเมื่อกายหนาแทรกเข้ามาระหว่างขาเรียว ไล่จูบตั้งแต่ต้นขาขาวนวลกระทั่งผ่านมาถึงกลางลำตัวที่ยังคงชูชัน ดวงตาคมก็เปี่ยมไปด้วยความต้องการไม่ต่างกัน
            “ถ้าเจ็บก็บอกนะ” แม้จะพูดแบบนั้นแต่เมื่อร่างสูงยกขาเรียวขึ้นแล้วรองไว้ด้วยสองแขน ส่วนร้อนผ่าวกำลังจะผ่านเข้าประตูฉ่ำเยิ้มที่รอการบุกรุก ฮยอกแจจิกหมอนจนตัวเกร็ง ห่อปากครางเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังคืบคลานเข้ามา เพียงส่วนปลายที่ผ่านเข้าในร่าง คนตัวเล็กก็อึดอัดจนกลั้นหายใจ
            แม้จะไม่ใช่ครั้งแรก ทว่าให้มากเท่าไหร่ก็คงไม่เคยชิน ร่างเล็กแอ่นขึ้นร้องเบาๆ ในลำคอ ชีวอนก็เล้าโลมให้อีกฝ่ายเพลินไปกับสัมผัสอื่นจนสะโพกอิ่มสั่นระรัว ชายหนุ่มเดินหน้า ขยับถอยนิดแล้วบุกเข้าใหม่ ได้ยินเสียงครางซี๊ดไม่ขาดปาก ก็จุมพิตบดเบียด ส่งลิ้นร้อนเข้าตวัดพัวพันจนร่างเล็กอ่อนระทวยไปทั้งตัว
            “เจ็บมั้ย?”
            ฮยอกแจส่ายหน้า แม้จะรู้สึกเสียดและฝืดไปบ้าง แต่ความอบอุ่นของกายหนาทำให้เขาไม่นึกถอย แขนเรียวตวัดโอบรอบ ดันสะโพกตัวเองขึ้นรับส่วนที่ยังหลงเหลือแล้วก็แทบจะร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงความหนักหน่วงตลอดช่องท้อง
            ชีวอนเงยหน้าครางรับ ฮยอกแจต้อนรับเขาด้วยตัวเอง แถมยังโอบกระชับทั้งตัวเขาไว้ในความอุ่นร้อน ชายหนุ่มส่งมือไปสร้างความสุขให้ตอบแทน แล้วก็เริ่มบรรเลงเพลงรักหนักหน่วงให้สมกับที่รอคอยมานานวันกว่าจะได้พบกันสักครั้ง
            “อ๊า...ชีวอน...” เสียงร้องระงมในความมืดทำให้ชายหนุ่มยิ่งฮึกเหิม กายหนาชื้นเหงื่อกดสะโพกเข้าออกเพื่อสร้างความสุขให้ทั้งตนเองและคนรักไปพร้อมๆ กัน ฮยอกแจทั้งหอบทั้งคราง รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกทุกครั้งที่ชีวอนบุกเข้าหาจนแน่น ทางรักร้อนบีบรัดและตอบรับตัวตนอีกฝ่าย ยิ่งชีวอนบดสะโพกเข้ามาซ้ำๆ ขยี้ให้ร่างเล็กสั่นสะท้านกับจุดสัมผัสภายในจนฮยอกแจต้องขบปาก
            ร่างสูงพลิกกายปุบปับในช่วงที่ฮยอกแจไม่ทันระวังตัว เสียงครางยาวหลุดออกมาทันทีที่รู้สึกถึงความลึกในร่างกาย ฮยอกแจส่ายหน้า ซบลงกับอกกว้างอย่างไม่รู้จะทำยังไง ชายหนุ่มจึงกระซิบเสียงเบา
            “ผมอยากให้ฮยอกแจทำให้บ้าง... ตามใจเลยนะ จะแรงแค่ไหนก็ไม่ว่า”
            “ฮื้อ...” ร่างเล็กเขินจนแดงก่ำไปทั้งตัว ขบปากอิ่มบวมของตนเอง พยายามระวังความเขินอายเพื่อสานต่อความสุขที่กำลังพุ่งขึ้น แต่ทว่าฮยอกแจก็ยังขัดเขินจนไม่รู้จะทำยังไง ชีวอนจึงขยับลุกนั่งกึ่งเอนและกดให้สะโพกอิ่มขยับเข้าหาเป็นจังหวะชักนำ
            “อ๊ะ...อ๊า...” หน้าหวานแหงนเงย เอนตัวไปด้านหลังนิดๆ ตามสัญชาตญาณและเริ่มโยกสะโพกเข้าหา แก้มนวลอิ่มเอิบ เหงื่อสีใสที่กำลังผุดออกมายิ่งทำให้คนตรงหน้าเขาดูเซ็กซี่มากขึ้น ท่าทางที่กำลังพยายามในตอนนี้ก็ยิ่งทำให้ชีวอนมีอารมณ์ กดสะโพกตอบรับยามที่ฮยอกแจสอดกายลงมาจนเสียงร้องดังแทบทุกวินาที
            “ชอบมั้ย หืม?” ชายหนุ่มโน้มให้ปากอิ่มขยับลงมาใกล้ กดจูบไปหลายครั้งและเมื่อฮยอกแจเรียนรู้ที่จะขยับด้วยตัวเอง เขาก็เพียงแค่ตอบสนอง ขยับให้ร่างของตนบดเบียดในจุดที่เขารู้ว่าฮยอกแจอ่อนระทวย เรียกเสียงร้องอู้อี้ในลำคออยู่ทุกครั้ง
            ขาเรียวหยัดจากพื้นเตียงและดึงตนเองลง สั่นสะท้านในบางครั้งเพราะแรงทั้งหมดถูกดึงให้อ่อนยวบด้วยกายร้อนที่กำลังขยันทำประตูดุเดือด ส่วนปลายล้ำลึกสอดเข้าหา ทำให้เข่าแทบอ่อน มือสองข้างประสานกันไว้และเมื่อชีวอนขยับให้เขานั่งกึ่งนอน ชายหนุ่มก็โต้ตอบกลับมาด้วยการกระแทกกระทั้นจนเกิดเสียงดังน่าอายจนก้องห้องนอน
            เตียงนุ่มไหวเอน เกิดเสียงลั่นเอี๊ยด ฮยอกแจพยายามปรามสะโพกอีกฝ่ายเอาไว้ แต่ทำได้ยากเหลือเกินเมื่อไฟร้อนลามเลียพุ่งสูง เพียงไม่กี่ครั้งที่ชักนำให้จังหวะช้าลง เขาก็ทนไม่ไหวต้องกระโจนกายเข้าสู่ห้วงหฤหรรษ์ ยอมจำนนต่อความร้อนแรงที่ไม่อาจหยุดยั้ง แม้เสียงฉ่ำแฉะยามสองกายกระทบกันและเสียงลั่นของเตียงจะทำให้เขาอับอายก็ตามที
            “ชีวอน...อ๊า...ตรงนั้น.... ชีวอน...” ฮยอกแจไม่เก็บเสียงร้องอีกแล้วเมื่อห้วงสวรรค์กำลังจะถึงจุดสิ้นสุด ความเจ็บเสียดแต่แรกก็กลบด้วยรสเสียวซ่าน สะโพกอิ่มตอบรับจังหวะอย่างรุนแรง ยิ่งชีวอนขยับเข้าหามากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งกอดคอหนาแน่นขึ้น เด้งเอวรับจนลืมสิ้นทุกสิ่ง ส่วนปลายของแท่งสีหวานกระตุกเป็นจังหวะ ทั้งที่ไม่โดนสัมผัสเท่าไหร่ แต่น้ำรักยังคงปริ่มหยาดหยดลงมา และยิ่งออกฤทธิ์มากขึ้นเมื่อชีวอนโหมสะโพกเข้าใส่จุดกระสันในกาย เรียกร้องให้ฮยอกแจถึงจุดปลดปล่อยในที่สุด
            “ฉ..ฉัน...อ๊...อ๊า...” ร่างเล็กกระตุกถี่ๆ กอดคอหนาเอาไว้แน่น ฟันคมกัดเข้าที่ไหล่กว้างในยามอารมณ์ถึงจุดโหนสูง ปากอิ่มครวญครางเสียงยาว ไม่รู้เลยว่าตัวเองยังคงถูกกอดรัดและโอบชีวอนเอาไว้ ลมหายใจหนักหน่วงปล่อยออกมากระทั่งหมดหอบ พอเห็นน้ำขุ่นขาวเปรอะเปื้อน ฮยอกแจก็ก้มหน้างุด อายยิ่งกว่าเดิม
            “เมื่อไหร่จะเลิกอายสักที”
            “จะเลิกได้ยังไงล่ะ ไม่ต้องแกล้งเลยนะ...ฮ๊ะ...ชีวอน...เดี๋ยวก่อน” เขาค้านขึ้นมาได้คำเดียวก็มีอันตกใจเมื่อกายหนาถอดถอนปุบปับแล้วจับให้อยู่ในท่าที่น่าอาย ฮยอกแจส่ายหน้า หันกลับมาหาทว่าชายหนุ่มกลับประชิดด้านหลัง จุมพิตตามลาดไหล่ขาว ไล่เรื่อยมาถึงแผ่นหลังบางและเลื่อนกลับขึ้นไปหาต้นคอ ฝากรอยไว้ตามอำเภอใจพร้อมกระซิบร้องขอ
            “ฮยอกแจอาจจะชอบท่านี้ก็ได้นะ”
            “ม...ไม่เอาหรอก...มันน่าอายนะ”
            “ไม่มีใครให้อายเลย อยู่กันสองคน” นิ้วเรียวพยายามดึงมือที่ไล้วนแถวสะโพกตนเองออก แต่ยิ่งทำนิ้วยาวยิ่งวนลงลึก กวาดเอาหยาดหยดความสุขที่เขาปล่อยออกมา แล้วก็วกกลับเข้าไปในสอดลึกช่องทางสีหวานที่กำลังสั่นสะท้านราวกับเรียกร้องให้ชีวอนเข้าหากลายๆ
ชายหนุ่มขยับนั่งซ้อนหลังคนขี้อาย อาศัยทีเผลอสอดนิ้วเบิกทางอีกครั้งจนฮยอกแจไม่ทันตั้งตัว และเมื่อเห็นร่างเล็กโอนอ่อนก็จับให้สะโพกอิ่มยกขึ้น อกเนียนแนบลงกับพื้นเตียงและโก่งโค้งสะโพก ชีวอนยกยิ้มยั่ว ดวงตาเปล่งประกายความพอใจ ร่างสูงเล้าโลมครั้งแล้วครั้งเล่าให้ฮยอกแจเพลิดเพลิน ตาเรียวหลับพริ้มแล้วก็ต้องอุทานเสียงหนักหน่วงเมื่อชีวอนบุกรุกเข้าในตัวเขาอีกครั้งจนเสียงหวานร้องแหบเครือ
            สะโพกหนากระตุ้นให้ร่างเล็กยอมจำนน กดย้ำเข้าออกถี่เร็ว พอฮยอกแจเผลอไผลไปกับรสสวาทจากมือและปากเขาก็กระทุ้งกายเข้าหาเป็นจังหวะร้อนเร่า หยอกล้อกับเกสรที่เปิดรับตัวตนเขาอย่างย่ามใจ
            แรกๆ ฮยอกแจก็ยังเขิน ไม่กล้าคลานเข่า แต่เมื่อชีวอนขยับสะโพกบ่อยครั้ง ทั้งดึงดันและถอดถอน ก็ทำให้เขาต้องโน้มตัวไปกอดหมอนอุดเสียงครางจากการกระทำที่แสนจะน่าอาย ท่วงท่าในตอนนี้ทำให้เขาตาพร่า ชายหนุ่มทาบทับอยู่บนหลังขาว กระแทกกายเข้าออก สร้างเสียงแฉะจากน้ำหวานที่ฮยอกแจเป็นเจ้าของมันเองด้วยความสุขสม ร่างสูงครางในลำคอ ยิ่งฮยอกแจโก่งสะโพกให้เพราะอกขาวนอนแนบเตียง เขาก็ยิ่งสอดกายลึกล้ำ
            “อ๊า...แน่น...อือ”
            “ฮยอกแจ...อา...” ทางรักร้อนแรงกำลังจะทำให้ชีวอนหน้ามืด ฮยอกแจตอบรับเขาแทบทุกครั้งที่ผ่านเข้าไปภายใน ชายหนุ่มร้องเสียงดัง จับให้ร่างเล็กหันมาเผชิญหน้า ขาเรียวยกพาดขึ้นบนบ่าจนเจ้าตัวร้องเสียงแห้ง หน้าหวานซุกอยู่กับหมอน แทบไม่กล้ามองชีวอน แต่อีกฝ่ายกลับโน้มตัวลงมา กดกายเข้าออกและเรียกร้องให้ฮยอกแจมองเขา
            “อื้อ...อ๊ะ...” ฮยอกแจหลุดครางกับความล้ำลึกที่ปะทะเข้ามาในร่าง กายเล็กบิดหนีความเสียวซ่านที่สาดซัด ระลอกคลื่นพิศวาทโหมแรงจนเขารู้สึกว่าน้ำหวานในกายกำลังจะปะทุออกอีกครั้งทั้งที่เพิ่งผ่านไป เขาพยายามถดสะโพกในบางครั้งแต่มันกลับถูกตามติดและชีวอนก็ส่งแรงเข้าหาอย่างหนักหน่วงมากขึ้นแทบไม่เว้นพื้นที่ให้หายใจ
            ชีวอนครางลึก รู้สึกถึงแรงกดดันในร่าง ขยับขึ้นไปหาเรียวปากอิ่มบวมแล้วก็ครอบครองฮยอกแจทั้งร่างกายและจิตใจ รสหวานจากจุมพิตไม่เทียบเท่ากับความร้อนแรงที่กำลังเกิดจากการเสียดสีเคลื่อนไหวอยู่ด้านล่าง สองกายโหมเข้าหากันราวจะไม่มีวันพรากจากและเมื่อชีวอนขยับถอดถอนรวดเร็ว แขนเรียวก็กอดอกหนาเอาไว้ สั่นสะท้านไปด้วยกันเมื่อชายหนุ่มกดกระแทกซ้ำๆ แล้วก็ปล่อยพิษรักสีขาวเป็นสายในร่าง




กลับไปอ่านต่อที่หน้าหลักนะคะ ^^