วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

Snowing Tears :: 13th Drop :: WonHyuk



อ้อมกอดแข็งแกร่งโอบรอบเอวเล็กราวจะบอกเป็นนัยว่าไม่ต้องขัดขืน ชีวอนกักตัวอีกฝ่ายตามความพอใจ ขณะที่ปากก็ยังไล้วนหาความหวานหอมจากคนตรงหน้าราวกับหิวโหย
แต่แน่ล่ะว่าเขาหิวโหย... เพราะไม่น่าเชื่อว่าเมื่อได้สัมผัสใกล้ชิดแล้ว ร่างที่เขาเอ่ยปากดูถูกต่อว่ามากมายกลับหอมหวานและเต็มไปด้วยเสน่ห์จนเขาเองยังหลงเพลิน
มือเรียวขยับขึ้นมาเกาะไหล่กว้างเอาไว้ยามที่คนตัวสูงผละออกเพียงนิด ใบหน้าขาวแดงก่ำ หอบอากาศเข้าปอดหนักหน่วง และก่อนที่เขาจะทันได้คัดค้านว่าจุมพิตนี้ร้อนแรงเกินไป ชีวอนก็ตะแคงใบหน้าลงมาตักตวงอีกครั้ง ทำให้ความคิดทั้งหมดพร่าเลือนไปจนสิ้น
“อ...อือ...” เสียงครางแผ่วดังขึ้น และแม้จะได้ยินตัวเองร้องแบบนั้นเขาก็ห้ามไม่ได้ ฮยอกแจอยากจะคิดอะไรออกบ้าง แต่ในเวลานี้ทุกสิ่งที่อยู่ในสมองเขามีเพียงสัมผัสของชีวอน ความร้อนรุ่มที่ดึงดูดให้ตกลงไปในห้วงของความเริงรมย์
มือใหญ่รุกไล้จากเบื้องล่างเข้ามา มือเย็นจัดเบียดแทรกให้อกบางสั่นสะท้าน ตาเรียวเบิกกว้างนิดๆ กับความอุกอาจของเจ้าของมือ ทว่าดวงตาคมกริบก็กดเขาไว้ให้อยู่ในห้วงอำนาจอย่างไม่อาจเลี่ยงได้
“คุณชีวอน...”
“ดี...เรียกชื่อฉันเข้าไว้ เรียกทั้งคืนได้เลยยิ่งดี”
ปากอิ่มที่เผยอค้างหุบลงทันควัน เขาเผลอหลุดไปได้ยังไงไม่รู้ แล้วก็ต้องผวาเฮือกกับน้ำหนักมือที่เน้นหนักกับยอดอกสีเข้ม ฟอนเฟ้นจนสู้มือ ชายหนุ่มยิ้มเครียด ลากมือไปทุกตารางนิ้วของความนุ่มอุ่นอย่างย่ามใจ มือบางสองข้างสั่นเทา ห่อปากร้องอุทานในลำคอเพราะความไหวซ่านตีขึ้นเป็นระลอกด้วยมือที่วนไปจนทั่วกายเขาทั้งที่ยังมีเสื้อผ้าครบ
“ผ...ผม...” ฮยอกแจก้มหน้าต่ำ รู้สึกว่าสายตาคู่นั้นร้อนแรงเกินทนไหว เขาเม้มปากแน่น กลั้นความเสียวซ่านเมื่อนิ้วยาวพบจุดหมายทั้งสองข้าง ขายาวขยับแทรกกลางและดันจนร่างเล็กติดผนังเย็นเฉียบ ไม่รู้อะไรที่ทำให้เขาขนลุก แต่ฮยอกแจมั่นใจว่าไม่ใช่เพราะความหนาวแน่ๆ
“อึก...” เผลอกลืนน้ำลายลงคอกับน้ำหนักมือที่เน้นย้ำเพียงสองจุด เขายกมือขึ้นหมายจะอุดปากไม่ให้เผลอหลุดครางอะไรออกไป ชีวอนก็ปัดนิ้วออกและเข้ามาประกบจูบอีกครั้ง และคราวนี้คนเชี่ยวชาญกว่าก็เรียกเอาทั้งวิญญาณเขาออกมาจนเข่าเรียวสั่นรัว
ฮยอกแจหายใจหอบ เหมือนจะยืนไม่อยู่ ต้องเกาะอีกฝ่ายเอาไว้ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนได้ยังไงจนกว่าครั้งนี้จะจบลง เขาจะยืนอยู่ได้ยังไงโดยไม่ล้มลงไปให้ขายหน้าหากจะถูกรุกรานแบบนี้
“ทำตัวเหมือนใสซื่อได้เก่งนะ ตัวงี้สั่นเชียว แต่คนอย่างนายจะทำยังไงฉันก็ไม่เชื่อ” ทั้งที่ยังทิ้งความร้อนผ่าวไว้กับตัวเขา ชีวอนก็ยังเอ่ยคำพูดเหล่านั้นออกมาได้ ดวงตาเย็นชาราวกับคนไร้หัวใจ ตรงกันข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง เกราะความเข้มแข็งทั้งหมดที่ฮยอกแจดึงมันออกมาใช้กำลังจะหมดลงแล้ว มันกำลังละลายไปเพราะสัมผัสร้อนเร่าที่กำลังแผดเผาตัวเขา
“ทำไมไม่ตอบล่ะ? แค่นี้มันยังไม่ถึงใจนายสินะ” เขาถามเยาะๆ แล้วก็เพิ่มแรงมากขึ้นอีกจนฮยอกแจผวาเฮือก ความเสียวซ่านเล่นงานเขาจนร่างกายเริ่มแสดงปฏิกิริยาตอบสนอง ถึงแม้จะไม่เคย แต่เขาก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น และเกิดขึ้นได้ยังไง
ยิ่งเห็นว่าร่างเล็กสั่นสะท้าน ชายหนุ่มก็ยิ่งกดยิ้มพอใจ เขาละมือออกมากะทันหัน เหลือบลงไปมองส่วนหน้าที่เริ่มแสดงอาการของร่างเล็ก กดรอยยิ้มเยาะให้อับอายจนฮยอกแจแทบแทรกแผ่นดินหนี
“มาเร็วเหมือนกันนี่ มือของฉันมันทำให้นายพอใจใช่มั้ย?”
ปากอิ่มไม่ยอมเอื้อนเอ่ย จะต้องให้เขาตอบเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ
“ฉันสั่งให้ตอบ! 
“ผมจะชอบหรือไม่ก็คงไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอยู่แล้วไม่ใช่หรอครับ”
“ปากดี!
ตาเรียวมองมาขุ่นเคือง นั่นเป็นสิ่งที่เขาทำได้มากที่สุด ยิ่งเขาพูดมากเท่าไหร่ก็คงทำให้ชีวอนพาลโกรธและลงโทษเขาได้มากขึ้นเท่านั้น
“ถ้ากล้านักก็ปากดีแบบนี้ให้ตลอดแล้วกัน เพราะคืนนี้ฉันจะทำให้นายรู้ซึ้ง”
คำขู่นั้นน่ากลัว แต่สิ่งที่น่าหวั่นใจยิ่งกว่าคือใจของเขา ฮยอกแจไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไปแล้ว ทำไมเขาถึงรู้สึกคาดหวังกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งที่มันมาจากความไม่จริงใจ ไม่มีความรักผสมอยู่ แต่การกระทำของชีวอน รวมถึงจุมพิตที่บดลงมาในช่วงท้ายของการสบตาอย่างท้าทายทำให้ร่างเล็กถอนใจครางเครือในลำคออีกครั้ง
เขาคงจะพ่ายแพ้... อีฮยอกแจคนนี้คงเกิดมาเพื่อพ่ายแพ้ให้กับผู้ชายที่ชื่อชเว ชีวอน...
ความตกใจวูบไหวขึ้นเมื่อมือใหญ่กระชากเสื้อเขาออกในคราวเดียวจนมันแหวกลงมาถึงยอดอกแดงก่ำเพราะน้ำมือหนา ชีวอนตวัดตามอง ยิ่งเห็นกายขาวเนียนแดงขึ้นทีละน้อยก็ยิ่งพอใจ เขากดจูบสร้างรอยเอาไว้ชัดเจนตรงลำคอขาว ประทับริมฝีปากขบเม้มอย่างแสดงความเป็นเจ้าของที่แอ่งชีพจรซึ่งสั่นรัวใต้ริมฝีปากจนรู้สึกได้
“อ...อือ...” เสียงหวานครางแผ่วแบบไม่รู้ตัว มือสองข้างได้แต่เกี่ยวร่างสูงเอาไว้เพราะกลัวตัวเองจะไถลลงไปกองกับพื้น มือใหญ่สอดเข้ามาอีกครั้ง คลุกเคล้าเนื้อนวลนิ่มหอม ตามใจตัวเองด้วยการป่ายปัดมือไปทั่วและเน้นย้ำจุดไวสัมผัสเป็นพิเศษจนฮยอกแจร้องฮือ
“อ๊ะ...” ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงก่ำ พยายามจะปิดปากตัวเองแต่ชีวอนก็สั่งให้ส่งเสียงคราง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้เขาทำตัวไม่ถูก ทุกครั้งที่อีกฝ่ายรุกเร้าและไล้วนกระทั่งปากหนาไล่เลยมาถึงยอดอกสีหวาน ฮยอกแจก็แทบจะกรีดร้อง
“คุณชีวอน...อึก...อา...” ร่างเล็กแทบจะสิ้นฤทธิ์ เขาโทษว่ามันเป็นเพราะความอ่อนเดียงสาของตนที่ทำให้เก็บความเสียวซ่านไว้ไม่ได้ แต่หากอีกใจก็รู้ดีว่าเป็นเพราะคนตรงหน้าคือชีวอน เขาถึงได้รู้สึกแบบนี้ ลิ้นลากตวัดโลมไล้ไม่ปรานีและยิ่งอีกฝ่ายขบเม้มมากเท่าไหร่ ฮยอกแจก็แทบจะขาดใจ
“ถ้าชอบก็ร้องออกมา ยิ่งนายร้องมากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งพอใจ และบอกได้เลยว่าในเวลาแบบนี้ ทำให้ฉันพอใจให้มากที่สุดจะดีกว่า”
คนตัวเล็กพยักหน้ารับ แม้เพียงนิดเดียวนั่นก็เรียกรอยยิ้มจางจากชีวอนได้ เขาขยับเข้าแทรก แนบชิดร่างกายที่ร้อนรุ่มไม่ต่างจากอีกคนเข้าหา บดเบียดทั้งตัวและจุมพิตให้ฮยอกแจรู้ถึงความต้องการจากส่วนล่างที่กดแนบ
ฮยอกแจส่ายหน้า พยายามกอบลมหายใจมากขึ้นจากจุมพิตยาวนาน ปากอิ่มบวมช้ำจากการขบกัดของคนตัวโตแต่ชีวอนก็ไม่ได้สนใจเพราะยังคงก้มลงเรื่อยต่ำ ชิมความหวานจากกายเล็กราวกับไม่รู้จักพอ และเมื่อมือใหญ่กำลังจะเลื่อนลงไปหาขอบกางเกง ฮยอกแจก็ร้องอุทธรณ์ในท้ายที่สุด
“ผ...ผมจะ...ยืนไม่ไหว” เขาเอ่ยออกไปตามที่ใจคิด เพราะแทบจะทรงตัวไม่ได้แล้วจริงๆ แต่นั่นกลับทำให้ชีวอนพอใจจนยอมที่จะผ่อนมือลงและก้มตัวตวัดเอาทั้งร่างบางขึ้นมาก่อนจะเดินตรงสู่เตียงนอน
“ถ้านายเชื่อฟังฉัน ฉันก็จะทำให้นายมีความสุขเหมือนกับฉัน” คำสั่งกึ่งบังคับกรายๆ ทำให้คนฟังกลืนน้ำลาย
หลังบางแนบลงบนเตียงและคนตัวโตก็ตามลงมาทาบทับ ชีวอนกระชากชุดคลุมเนื้อดีลงไปข้างเตียง เหลือไว้เพียงชุดนอนขายาวที่กำลังแสดงความต้องการจนฮยอกแจไม่กล้ามองต่ำ แต่จะให้สบกับดวงตาคู่คมอันแสนร้อนแรงเขาก็ไม่กล้า ตาเรียวจึงเสมองด้านข้างแต่เพียงครู่เดียวก็ถูกเชยกลับมาให้รับจุมพิตรอบที่ไม่อาจนับของวัน
ชีวอนขบเม้มปากอิ่ม รู้สึกพอใจการตอบสนองที่ฮยอกแจมอบให้ ร่างน้อยจูบตอบเขาเงอะงะแต่ก็ดูออกว่าไม่ได้ขัดขืน ท่าทางไม่ประสาผสมตื่นเต้นทำให้เขาเพิ่มพูนความต้องการมากขึ้นไปอีก มือใหญ่สองข้างดึงเสื้อออกจากกายขาว โยนมันไปด้านข้างแบบไม่ใยดีและกำลังจะมีกางเกงขายาวของคนตัวเล็กตามลงไป
ฮยอกแจอุทานพลางขดตัว รั้งกางเกงตัวเองไว้แต่เสียงเข้มก็ดังขึ้นเหนือศีรษะบอกว่าให้ตามใจ เขาจึงข่มความอายยอมให้ชีวอนพรากมันออกไป
เหลือเพียงปราการน้อยนิดชิ้นเดียวตลอดทั้งร่าง และสีขาวบางๆ ของมันก็ปกปิดอะไรเขาไม่ได้เลยเมื่อความต้องการฉายชัดพร้อมหยดขุ่นที่ไหลซึมด้วยความต้องการ ฮยอกแจขดจนตัวกลม อายจนแทบจะวิ่งหนีแต่มือใหญ่ก็จับให้เขาพลิกกลับมาและสั่งด้วยเสียงทรงพลัง
“ไม่ต้องหลบ ไม่ต้องหนี”
“ผ...ผม” ฮยอกแจมองหน้าคมราวจะตัดพ้อ เขาไม่เคยรู้สึกอ่อนแอขนาดนี้ คงเพราะแต่เดิมก็เรียกความเข้มแข็งออกมาได้เสมอ แต่เมื่อมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ทั้งที่สิ่งเลยเถิดกำลังจะเกิดขึ้น เขาก็อยากรู้สึกถึงชีวอนคนที่เคยเจอในลอนดอนบ้างสักครั้ง อย่างน้อยก็อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความทรงจำที่ดีมากกว่าการกระทำแบบคุกคามและออกคำสั่ง
แต่อีกฝ่ายคงไม่เข้าใจ ร่างเล็กปิดตาลงเมื่อชีวอนโน้มตัวมาขึงร่างเขาไว้ จึงไม่ได้เห็นดวงตาแห่งความเสน่หาและพอใจที่ปรากฏชั่ววูบ  “แล้วนายจะชอบ”
เสียงนั้นก่อให้เกิดความร้อนผ่าวที่หัวตา แต่ฮยอกแจก็กลั้นมันไว้ เขาจะไม่ยอมมีน้ำตาให้ชีวอนรู้สึกสมน้ำหน้าและสมเพชไปมากกว่านี้ แค่เท่าที่กำลังเป็นอยู่กับสิ่งที่รู้สึกในใจก็ทำให้ตัวเองดูด้อยค่าลงไปมากโข
ทั้งที่ในใจเขาเรียกร้องความรักแท้จริงจากอีกฝ่ายอยู่ลึกๆ ชีวอนก็ตอบแทนด้วยการกระทำแบบนี้ หากว่ามันผสมความจริงใจอยู่สักนิด ฮยอกแจก็คงไม่รู้สึกหดหู่มากเท่าที่เป็นอยู่ ห้วงความคิดเขาหยุดชะงักเมื่อเจ้าของร่างกวาดมองจนพอใจแล้วโน้มตัวลงมาขบเม้มปากอิ่มอีกครั้ง ชีวอนหลับตา บดจูบไม่ปรานีและกระตุ้นให้ฮยอกแจตอบรับ เริ่มต้นเกมในค่ำคืนนี้อีกครั้ง
ร่างเล็กผวาเฮือกไปกับจมูกโด่งที่ซุกไซ้ ครั้งนี้ชีวอนไม่ได้อารัมภบทนานนัก แต่เขาก็รู้ดีว่าเมื่อเริ่มต้นแล้วก็ยากจะต้านทานไหว ร่างกายราวกับรู้ดีถึงความรู้สึกเจ้าของเพราะมันตอบสนองไปเสียทุกทีที่มือใหญ่ลากผ่าน ไม่ว่าชีวอนจะกดย้ำจุดไหน ทั้งร่างก็จะไหวสะท้านราวกับคลื่นที่ซัดเข้าหาตัวอยู่ร่ำไป
“อา...ผ...ผม” ฮยอกแจร้องไม่เป็นภาษาเมื่อดวงหน้าคมกำลังให้ความสนใจที่อกเขา ปากได้รูปขบจนยอดอกแข็งตัวตอบสนอง คนตัวเล็กใต้ร่างก็บิดกายพลิ้ว เปลือกตาปิดแน่นราวกับหาทางออกไม่เจอ อกบางแอ่นขึ้นราวกับวิงวอนให้ชีวอนทำมากขึ้น รุนแรงขึ้น ความรู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเองแผ่ซ่าน เขาแสดงออกเหมือนคนไร้ยางอายที่ต้องการคนตรงหน้าสุดหัวใจ
“นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น” เสียงห้าวให้ความรู้สึกคล้ายได้ยินจากที่แสนไกล แล้วทั้งร่างเล็กก็ต้องสะดุ้งเมื่อชีวอนสอดมือลงไปยังปราการสุดท้าย ฮยอกแจขนลุกซ่าน ก้มงุดไปกับหมอนหนุนจนไม่กล้าสบตามอง
“เริ่มชุ่มแล้วนี่... แบบนี้ก็ดีเพราะฉันก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว”
“คุณ...ชีวอน...อ๊ะ...อย่า...ครับ...” เสียงร้องห้ามขาดห้วงเพราะมือใหญ่นั้นกอบกุมเขาไว้ทั้งหมดไปแล้ว ชายหนุ่มรุกรานเน้นหนักหาจุดที่ฮยอกแจจะตัวสั่นเพราะเสียวซ่านอย่างพอใจ และเมื่อสะโพกอิ่มลอยขึ้นตอบสนองยามเขารูดรั้ง ยิ้มกร้าวก็เผยตัวอย่างพอใจ
“ชอบก็ร้องออกมา”
“อื..อือ...อ๊า...” ขาเรียวถูกแยกกว้างให้อีกฝ่ายแทรกตัวเข้าตรงกลาง ชายหนุ่มคุมเกมเหนือร่างน้อย ยกยิ้มพอใจทุกครั้งที่นิ้วเรียวผละไปจิกผ้าปูพร้อมกับร้องครวญ ใบหน้าหวานส่ายสะท้านกับสิ่งที่ชีวอนกำลังทำ เขาหอบหายใจแล้วก็ยิ่งหอบดังขึ้นเมื่อคนตัวสูงโน้มลงมากดจูบและกระตุ้นมือหนักขึ้น
สะโพกอิ่มส่ายวนคล้ายจะหาทางออก แต่อีกด้านก็เหมือนตอบสนองต่อมือที่กำลังกำรอบตัวเขา ฮยอกแจครางเครือไม่รู้จะทำอะไรได้ ยิ่งยามมือใหญ่กระตุกรูดเร็วถี่ คนตัวเล็กก็ร้องเสียงสะท้าน
“อ๊า...ม...ไม่..อือ...คุ...คุณ...” ฮยอกแจหอบฮั่ก เผลอเลื่อนมือขึ้นมากอดรอบคอหนาและร้องอยู่ข้างหูอีกฝ่าย ชีวอนไม่ได้ปัดมือนั้นออกไปเพราะเขามัวแต่ลุ่มหลงอยู่ในความสุขที่อีกฝ่ายกำลังแสดงให้เขาดูกระทั่งฮยอกแจเริ่มบิดกายถี่ๆ ร้องครางให้ได้ยินดังขึ้นเรื่อยๆ เขาก็หยุดมือ
“อย่าคิดว่านายจะไปก่อนฉันได้”
เสียงครางเครือดังอยู่แค่ในลำคอเมื่อตาเรียวเปิดขึ้นช้าๆ มองเห็นร่างกายที่แสนจะสมบูรณ์แบบตรงหน้า ชีวอนขยับนั่งคุกเข่า ก่อนจะหันมาและออกคำสั่งกับเขา
“ถอดชุดให้ฉัน”
“คุณชีวอน...” อย่าว่าแต่แรงจะลุกนั่งเลย ตอนนี้คนตัวเล็กแทบจะไม่มีแรงยกมือแล้ว พิษไหวซ่านที่ค้างในตัวทำให้เขาเกือบจะทนไม่ไหว แต่เมื่อชีวอนตวัดสายตามาอีกครั้ง ฮยอกแจก็พยุงตัวเองขึ้นไปปลดกระดุมเสื้อให้อีกฝ่าย
“กางเกงฉันด้วย”
“แต่...ว่า...” คำค้านถูกกลืนลงคอเมื่อชีวอนจ้องเขม็ง มือเรียวสั่นค่อยๆ เลื่อนลงไปหากางเกงนอนเนื้อนิ่ม ก้มหน้างุดและหันออกด้านข้างเมื่อปลดมันออกได้ในที่สุดโดยไม่ยอมมองส่วนที่กำลังผงาดขึ้นตรงหน้า
“ทำแบบที่ฉันทำให้นาย”
คำสั่งสุดท้ายทำให้ฮยอกแจสะดุ้งเฮือกอีกคำรบ พยายามจะร้องค้านแต่คนตัวสูงก็กอดตัวเขาไว้และพลิกกลับมาให้ร่างเล็กนั่งคร่อมตัก มือเรียวจึงวางแปะอยู่ที่ส่วนใหญ่โตซึ่งกำลังขยายขึ้นเรื่อยๆ พอดี
“ถ้านายทำงานดีดี ตามใจฉันมากๆ ฉันก็จะถือว่าดอกเบี้ยได้รับการชดใช้เยอะมากเท่านั้น”
“ผมไม่เคยทำ...” หลุดปากไปแล้วก็ขบไว้ ต่อให้พูดจนปากเปียกชีวอนก็คงไม่เชื่อเขาหรอก
“ไม่เคยก็หัดไว้ซะ เพราะมันจะไม่ใช่แค่ครั้งเดียว”
ร่างเล็กเงยหน้ามองอีกฝ่ายชั่วคราว คำถามประเดประดังอยู่ในสายตาแต่ก็ไม่กล้าถามออกไป สุดท้ายจึงได้แต่ขยับมืออย่างกล้ากลัวและทำให้ชีวอนรู้สึกแบบที่เขาได้รับไปเมื่อครู่
ดวงหน้าคมแสดงความพึงพอใจเมื่อมือนุ่มกอบกุมเขาไว้และเริ่มต้นรูดรั้ง ฮยอกแจข่มความอายใช้แต่มือและหันออกอีกด้าน มือใหญ่จึงเชยคางเรียวขึ้นมาและกดจูบหนักหน่วงราวจะกระชากวิญญาณไปจากร่างจนเขาหายใจติดขัด ฮยอกแจเผลอหยุดมือ เสียงห้าวก็กระซิบข้างริมฝีปากบอกว่าให้ทำต่อไป ฮยอกแจจึงต้องรับศึกทั้งจากปากร้ายกาจที่จูบเก่งกาจและรับมือกับความต้องการของชีวอนที่กระตุกในมือเขา
ไม่เพียงเท่านั้น เพียงไม่กี่นาที สองแขนแกร่งก็รั้งตัวเขาเข้าชิด ชีวอนกำจัดชั้นในออกไปจากขาเรียวในที่สุด ฮยอกแจผงะถอยแต่ก็ถูกอีกฝ่ายกกกอดเข้าไปจนเนื้อแนบเนื้อ สองร่างในขณะนี้เปล่าเปลือยและไม่มีสิ่งใดปิดกั้น ชีวอนก็เริ่มรุกรานส่วนหน้าไปพร้อมๆ กับที่มือเล็กยังคงรูดรั้งและขยับให้ชายหนุ่มรู้ถึงความสุขสม
“อ๊ะ...คุณ...” คนตัวเล็กหลุดเสียงเมื่อน้ำหนักมือเริ่มเน้นหนักตามอารมณ์ที่กำลังพุ่ง ฮยอกแจถอนใจหอบๆ เขาแทบจะทนไม่ไหวกับความพลุ่งพล่านที่กำลังปั่นป่วนอยู่ภายใน มือเขาตอนนี้แทบจะหยุดชะงักไปแล้วเมื่อชีวอนบดจูบหนักข้อและรั้งมือสุดแรงให้ทั้งร่างลอยวืด เหมือนจะล่องลอยไปในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้
คนตัวสูงขยับเปลี่ยนท่าปุบปับจนอารมณ์ชะงักไปเล็กน้อย ฮยอกแจหงายหลังลงบนเตียงนุ่ม หอบหนักเพราะดวงตาสีเข้มที่ข้นไปด้วยแรงพิศวาสบอกเขาว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น กายเล็กสั่นเบาๆ ถึงจะไม่เคยทำอะไรแบบนี้แต่ก็รู้ว่ามันจะต้องเจ็บและเขาก็คงจะพรางมันไว้ไม่ได้หากต้องไปทำงานในวันพรุ่งนี้
“อย่ารุนแรงนะครับ” คำพูดกึ่งขอร้องทำให้คนที่กำลังจะเดินหน้าชะงักไป ชีวอนกระตุกยิ้ม และมันก็เป็นยิ้มที่เขาอ่านไม่ออกอีกเช่นเคยว่านั่นหมายถึงเยาะเย้ย ถากถางหรือเข้าใจ
“ถ้าไม่อยากเจ็บก็ทำตัวดีดี”
ฮยอกแจพยักหน้าเรียบง่ายเพราะมันไม่มีประโยชน์ที่จะขัดขืน ทุกอย่างได้มาถึงจุดที่ไม่อาจกลับไปเป็นแบบเดิมได้อีก สิ่งที่เขาหวังในตอนนี้ก็ขอเพียงให้มันผ่านพ้นไปโดยไม่ที่ทิ้งความเจ็บปวดมากมายเอาไว้ก็พอ
จากเดิมที่ตั้งใจจะทำให้เจ็บจำ ชีวอนกลับต้องใจอ่อนเพราะคำขอร้องนั่น เขาสบตาเรียวเห็นความหวั่นกลัวก็นึกในใจว่าช่างมารยาได้สมจริง แต่เพราะเขาก็ไม่ใช่คนซาดิสม์อะไร ชอบให้คู่นอนมีความสุขไปด้วยกัน ถึงแม้จะเป็นแค่ตัวขัดดอกก็ตาม
“มีเจลมั้ยล่ะ”
คำถามตรงๆ ทำให้ฮยอกแจส่ายหน้าด้วยความอาย เขาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้จะมีของพวกนั้นไว้ได้ยังไง ชีวอนมองด้วยสายตาราวกับประเมิน เห็นแก้มนวลแดงก่ำและก้มงุดอยู่กับหมอนแทบไม่สบตา เขาจึงเลื่อนมือลงไปรูดรั้งอีกครั้ง ตัวช่วยที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะปล่อยออกมาเท่านั้น
“อ๊ะ...” ร่างน้อยสะดุ้ง ครางเครือออีกครั้งเมื่ออารมณ์เมื่อครู่ถูกปลูกด้วยความร้อนแรงกว่าเก่า สองมือป่ายปัดระบายความเสียวซ่านและแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อชีวอนจับให้มือเขาไปกอดรอบคอ และปากได้รูปก็รังแกบนร่างเขาอีกครั้งให้ทุกอารมณ์พวยพุ่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ฮยอกแจครางหอบ เมื่อโดนรุกรานพร้อมกันหลายทางแบบนี้ก็แทบจะทนไม่ไหว เอวเล็กส่ายวนลอยหวือในบางจังหวะที่นิ้วยาวกรำความช่ำชอง เขาร้องแทบไม่ได้ศัพท์ เผลอจิกนิ้วกับไหล่กว้างยามเสียวซ่านอีกด้วย แทบไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไปบ้างกระทั่งความสุขกำลังลอยเข้ามาถี่กระชั้น เสียงร้องครางยาวๆ ก็ดังขึ้นพร้อมกับสะโพกอิ่มลอยคว้างและปลดปล่อยของเหลวภายในออกมา
ความต้องการที่เกิดขึ้นรุนแรงทำให้ชีวอนบดกรามจนฟันแทบแตก เมื่อคนตัวเล็กไปถึงความสุขเขาก็ไม่รอสิ่งใดอีก นิ้วยาวชุ่มน้ำไล้ลงมาเบื้องล่าง ช่องทางสีหวานที่หดเกร็งเป็นจังหวะคล้ายจะร้องเรียกเขากลายๆ และเจ้าของมันก็ก้มหน้าต่ำจนแทบมองไม่เห็น
“อย่าเกร็ง”
“ผม...ไม่...อ๊า...” เสียงหวานครางหลงเมื่อนิ้วหนึ่งสอดเข้าไปก่อน ฮยอกแจไม่รู้จะซ่อนใบหน้าแดงก่ำของตัวเองไว้ที่ไหน ยังไม่ทันได้หายใจเป็นปกติด้วยซ้ำ เขาก็ต้องเตรียมพร้อมรับความต้องการของชีวอนเสียแล้ว
ดวงตาเข้มจนแทบจะเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทของชีวอนทำให้ร่างเล็กพยายามทำตามที่อีกฝ่ายบอก แต่เขาไม่เคย จะให้บอกอีกกี่ครั้งก็ไม่เคย และยิ่งนิ้วยาวสอดเข้ามาลึกเท่าไหร่ เขาก็เผลอตอบรับรัวเร็วไปจนได้ยินเสียงครางจากคอหนา
“คุณชีวอน...อึก...ผม...ไม่...” ในตอนนี้เขาไม่ได้สนใจแล้วว่าอะไรเหมาะสม เมื่ออีกฝ่ายเลื่อนนิ้วเข้าออก ฮยอกแจก็แทบยกสะโพกผวาตาม ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกำลังทำให้เขาหายใจไม่ออก แต่ยิ่งกว่าสิ่งใดคือความไหวซ่านที่ตีขึ้นมาอีกระลอก มันไม่เหมือนสวรรค์ที่เขาไปถึงเมื่อครู่ ครั้งนี้มันมากกว่า และยิ่งมากขึ้นตามจำนวนนิ้วที่เข้ามาในร่าง
กล้ามเนื้อไหล่และหลังที่เขากอดอยู่นี้บอกได้ดีว่าชีวอนกำลังอดทนเพียงใด ฮยอกแจก้มงุด หอบหายใจหนักๆ และตัดสินใจเอ่ยออกไปว่าคงไม่เป็นไรแล้ว
“ทำตามที่ฉันบอก แล้วนายจะไม่เจ็บ” คนตัวสูงผละมาเอ่ยประกบริมหูก่อนจะจับขาเรียวออกกว้าง ฮยอกแจเผลอกลั้นหายใจ หลับตาปี๋เตรียมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาแทบจะขาดใจตายเมื่อชีวอนค่อยๆ ดันกายเข้ามา
“อ๊ะ...อ๊า...” เพียงแค่ส่วนแรกชำแรกลึก ทั้งร่างก็สั่นเทาไปหมด ฮยอกแจเผลอขบฟันกับไหล่กว้าง ร้องในลำคอด้วยความเจ็บผสมเสียวซ่านเพราะมือใหญ่ขยับมารูดรั้ง ชายหนุ่มเองก็แทบทนไม่ไหว ร่างน้อยตอบรับเขาจนแน่นไปหมด เขาค่อยๆ ขยับสะโพกถอดถอนและเข้ามาใหม่ ฮยอกแจก็ทุบไหล่เขา พยายามตอบรับส่วนที่กำลังเข้าหา
“ผม..อึก....จะ..ไม่ไหว...อ๊ะ...เจ็บ” เสียงครางร้องแผ่วเมื่ออีกฝ่ายเดินหน้าไปได้ครึ่งทาง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้คนตัวเล็กน้ำตาซึม ทว่าชีวอนมองไม่เห็น เขาเม้มปาก ขยับเข้าแทรกไม่กี่ครั้งก็คว้าร่างน้อยมากดจูบและเมื่อฮยอกแจเผลอไผลก็ดันร่างเข้าไปจนสุด
“อึก..อ๊า...” ฮยอกแจสะอื้นฮัก จุกไปทั้งร่างจนแทบพูดไม่ออก ใบหน้าหวานแหงนเงย หลับตาแน่น เขาพยายามหายใจลึก แล้วก็ต้องสะดุ้งอีกคราวเมื่อชีวอนขยับรูดรั้งข้างหน้าให้พร้อมกับเริ่มถอนกายออกไป
รสสัมผัสแปลกใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นทำให้คนรับกำลังจะขาดใจตาย ฮยอกแจรู้สึกเหมือนร่างจะฉีกขาดเมื่ออีกฝ่ายเติมเต็มเข้ามา แต่นั่นก็เป็นเพราะความเสียวซ่านที่ชีวอนกำลังมอบให้ ร่างเล็กหอบโยน ไม่รู้เหนือใต้เมื่อสะโพกอิ่มก็ยกขึ้นรับกับจังหวะที่กำลังถาโถม ฮยอกแจจิกหมอนหนุน ร้องครวญไม่รู้ประสาจนเสียงแหบ
ส่วนร้อนผ่าวแทรกลึกกระตุ้นถูกจัดภายในให้เขาหัวหมุนตาลาย ฮยอกแจร้องอื้ออึง หอบสะอื้นไปกับน้ำหนักกายของชีวอนที่บดเบียดเข้าหา ชายหนุ่มเองก็ครางในลำคออย่างพอใจที่ตัวตนถูกโอบล้อม ความคับแน่นทำให้รู้สึกตลอดร่าง และยิ่งสะโพกอิ่มยกขึ้นตอบรับ ชีวอนก็หลับตาร่ำร้องในใจถึงความสุขสม
“อา...เยี่ยม...เยี่ยมจริงๆ” เมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัว คนตัวสูงก็รู้สึกถึงความยินดีที่ได้เข้าไปอยู่ด้านในกายเล็ก ทุกอย่างของฮยอกแจตอบรับเขา บีบรัดและเปิดกว้างต้อนให้เขาเข้าไปด้านใน ลึกขึ้น ร้อนแรงขึ้น
“คุณชีวอน...ผม...อ๊า....อ๊ะ...อื้อ..อื้อๆ” เสียงร้องดังคลอเคียงไปกับจังหวะโรมรัน ยามที่คนตัวสูงโน้มลงมาจูบร้อนแรงไปพร้อมกับชักสะโพกเข้าออกในร่าง ทางรักสีหวานเปิดกว้างยอมให้เขาเข้าหาอย่างไม่บิดพลิ้วและเจ้าของก็เกร็งร่างตอบรับอย่างเต็มใจ มือใหญ่รูดรั้งให้กายด้านหน้าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ฮยอกแจก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป เหมือนว่าเขากำลังจะถูกพรากออกไปยังที่แสนไกลซึ่งไม่อาจอธิบายได้
“ผม..ฮ๊า...อ...อะ..” ขาเรียวถูกยกสูงให้คนตัวโตขยับแนบชิด เมื่อทุกอย่างเข้าที่ จังหวะรัวเร็วก็สะท้อนให้ร่างเล็กสะท้านตามไปด้วย ฮยอกแจร้องอื้ออึง ความเสียวซ่านเข้าปะทะตัวทุกครั้งที่อีกฝ่ายขยับรุกเร้าจนไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกแบบนี้ได้ ยามที่ส่วนปลายแทรกเข้าลึก เขาก็แทบจะแดดิ้น
“จะไม่ไหว...จะไม่...ไหว...อ๊ะ...คุณชีวอน...คุณชีวอน” เสียงร้องเรียกชื่อเขาทำให้ยิ่งรู้สึกฮึกเหิม ชีวอนมองคนใต้ร่างที่กำลังตอบสนองเขาแบบไม่รู้ตัว ทั้งร่างเล็กดูหวานล้ำ ฮยอกแจดูดกลืนเขาราวกับจะไม่ยอมให้เขาผละจาก ใบหน้าที่กำลังขบกลั้นอารมณ์ตัวเองยามเขากระแทกกายเข้าหายิ่งชวนหลงใหล ภาพของความสุขสมที่อีกฝ่ายเผยอปากครวญครางหวานหู ร้องเรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่ายิ่งทำให้ไฟหนุ่มลุกโชน ขยับเดินหน้าเติมความสุขสมให้เพิ่มพูนไม่หยุดยั้ง
“ลีลาดีแบบนี้ฝึกมากี่คนแล้วล่ะ” เขาเอ่ยถามออกไปตามที่คิด แม้จะนึกตงิดใจกับความกลัวยามที่อีกฝ่ายขอร้องเขาก็ตาม
“ผม...ไม่เคย...อ๊ะ...อือ...” ยังไม่ทันได้ตอบจนครบประโยค ความล้ำลึกที่แทรกเข้ามาก็ทำให้ต้องร้องขึ้นก่อน ฮยอกแจตกใจกับจังหวะรัวเร็ว
“ไม่ต้องโกหกกับฉัน”
ร่างเล็กลืมตาขึ้นสบ ความไหวซ่านและพิศวาสที่กำลังสะท้อนออกมาทำให้คนตัวโตยิ่งได้ใจมากขึ้น “ผมไม่ได้โกหก... ผม...ไม่...เคย...อ๊า...”
ชีวอนรั้งขาเรียวพาดไหล่จนคนด้านใต้ร้องเสียงหลง กายหนาขยับชิดจนแทบสนิทเป็นเนื้อเดียว พร้อมๆ กับที่เขารู้สึกว่าชีวอนกำลังเติมเต็มในกายจนไม่อยากให้ผละไปไหน ความรู้สึกของการเป็นคนสำคัญต่อหน้าผู้ชายคนนี้คือสิ่งที่เขาต้องการ
“คุณชีวอน...อึก...” เสียงเรียกชื่อในตอนท้ายทำให้เขาเชื่อหมดใจ ในห้วงอารมณ์แบบนี้คงไม่มีใครโกหก โดยเฉพาะร่างที่แทบจะไม่ได้สติเพราะความหฤหรรษ์เข้าแทรกซึมทุกอณูยิ่งทำให้ชีวอนเดินหน้าเข้าหา ขยับสะโพกเข้าแทรกเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของต่อร่างนี้ ร่างกายที่เขาจะเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวและตลอดไป
ความคิดนั้นทำให้ชีวอนยิ้มเครียดขึง สองแขนรั้งขาเรียวลอยขึ้น ลดจังหวะมาขยับเนิบช้าแต่เต็มไปด้วยความสุขสมทุกครั้งเสียจนล้นปรี่ ฮยอกแจครางอือ แทบไม่ได้สติเพราะหัวหมุนตาลายไปหมด ความสุขสมขั้นสุดที่กำลังเข้าออกในร่างกระแทกกระทั้นให้จุดอ่อนไหวถูกกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าราวจะฉีกร่างเขาออกไป
ช่วงจังหวะสุดท้ายของความสุขล้นทำให้ทั้งสองร่างแนบชิดจนไม่มีอากาศใดจะลอดผ่านได้ ชีวอนขยับเข้าหาถี่เร็ว ร่างเล็กก็แอ่นสะโพกลอยขึ้นตอบรับอย่างลืมตัว ความเจ็บในตอนแรกนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไปแล้วเมื่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นโหนตัวเขาให้ลอยไกลออกไป ไกลออกไปจนกระทั่งความสุขครั้งที่สองพรั่งพรูและกระตุกกายต่อหน้าชีวอน รั้งให้คนตัวสูงครางฮึม เร่งเดินหน้าและตามไปติดๆ กระทั่งปลดปล่อยทุกหยดหยาดไว้ภายในกายขาว
“บอกฉันอีกครั้งว่านายยังไม่เคยมีใคร” คำถามกึ่งบังคับดังขึ้น ตาเรียวจึงเปิดขึ้นมามอง เขารู้สึกถึงความใหญ่โตที่ยังไม่ถอดถอน ทว่าจังหวะร้อนเร่าจบลงไปแล้ว สติที่เหลือในตอนนี้จึงมีเพียงความอ่อนเพลียผสมอยู่
“ผมไม่เคยมีใคร...มาก่อน” เอ่ยจบก็ปิดตาลงช้าๆ ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันเริ่มแสดงตัวเพราะเขาขึ้นสวรรค์ไปถึงสองครั้ง แถมเวลานี้ก็ผ่านเที่ยงคืนมากว่าสามชั่วโมงแล้ว
ร่างน้อยปิดตาลงแล้วก็แทบจะหลับไปในทันที ลมหายใจหอบหนักเริ่มปรับเป็นจังหวะปกติ ปล่อยให้คนตัวสูงได้แต่มองด้วยความรู้สึกขัดแย้งอยู่ในใจ
ทั้งที่แขนเขายังคงกอดเอวเล็กแนบกาย ชีวอนกลับรู้สึกว่าจิตใจยังคงคัดค้าน และแม้จะรู้สึกดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นรวมไปถึงคำยืนยันครั้งสุดท้าย แต่เขาก็ยังไม่สนิทใจมากพอที่จะยินดีกับมันจากใจ
เมื่อแน่ใจว่าร่างเล็กหลับสนิทไปแล้ว ชีวอนก็ลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ ความคิดมากมายที่วิ่งวนในหัวไม่อาจทำให้เขาหลับได้เหมือนอย่างเจ้าของห้อง ชายหนุ่มกวาดตามองเสื้อผ้าที่กระจัดกระจาย ยิ่งหันไปเจอร่างเปลือยเปล่าที่ยังคงกรุ่นเสน่หาก็ยิ่งนึกเคืองตัวเองที่มันเผลออ่อนไหว
มือใหญ่หยิบชุดมาสวมง่ายๆ และก้าวออกไปจากห้อง ทั้งที่อยากจะปิดประตูให้เสียงดังๆ แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ลากฝีเท้าเงียบกริบกลับไปที่ห้องตัวเองโดยทิ้งคนตัวเล็กเอาไว้กับความสับสนแบบนั้น




 กลับไปอ่านต่อที่หน้านี้นะคะ ^^